My life in March & University Library

สวัสดีค่า น้องๆ เป็นยังไงกันบ้าง หลายๆ คนคงกำลังมุ่งมั่นปั่นคะแนน IELTS กันอยู่ สู้ๆนะคะ อีกนิดเดียว ^^

ตอนนี้ที่นี่ก็อากาศอุ่นขึ้นบ้างแล้ว แต่เอาจริงๆ มันก็เพี้ยนๆ นี่ปลายเดือนมีนาแล้ว บางวันหิมะยังตกค่ะ ว่าไม่ได้จริงๆ อากาศที่นี่ ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ พี่เปิด Application ต้องดูอุณหภูมิกันตลอด วันไหนฝนตก วันไหนแดดออก วันไหนหิมะตก จะแต่งตัวยังไง หนาวมากก็ต้องใส่ Heat tech ทั้งเสื้อและกางเกง งั้นไม่ไหวจริงๆ เราต้องทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่ตลอดเวลาค่ะ  * แต่จริงๆ สารภาพว่าพี่พึ่งซื้อ heat tech มาไม่นาน เพราะพี่ดื้อ อย่างน้อยควรมีเสื้อกับกางเกง heat tech ติดตู้ไว้เลยซักอย่างละ 5 ตัว  แต่พี่สาวพี่ดุ บอกไม่ซื้อไม่ได้ พี่เลยซื้อ แล้วเอออออออ ชีวิตมันดีจริงๆ เวลาเราใส่กางเกง heat teach ในกางเกงยีนอีกที คือ สู้กับความหนาวเหน็บ เยือกเย็นได้สบ๊าย แล้วมันคุ้ม เพราะหนาวนานมากที่นี่  รู้งี้ซื้อนานแล้วววว  วันนี้พี่เอารูปตอนหิมะตกมาฝากด้วย ตามดูกันเลยค่า

รูปทั้งหมดถ่ายที่ Manor Park Student Village  ค่า

Move point ไปที่เรื่องเรียนบ้าง

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะมีการเรียนการสอนในห้องเรียน และก็ break ประมาณเดือนนึง หรือที่เค้าเรียกกันว่า  Easter Break หยุดช่วง 26 มีนาคม – 27 เมษายน นักเรียนไทยหลายคนบินกลับไทยไปพักเบรคที่บ้าน หรือบางคนก็วางแผนทัวร์ยุโรปกัน  ส่วนพี่ก็อยู่ห้องสมุดเคลียร์งานส่งอาจารย์ให้เสร็จ   แล้วก็อยู่ลอนดอนอาทิตย์นึง แล้วก็กลับไทย ไปบ้านเกิด ไปกินกุ้งเผาที่อยุธยา . . . ตามเทรนละครตอนนี้ 555

โพสนี้นอกจากจะพาไปชมหิมะแล้ว  พี่จะพาน้องๆไปรู้จักกับ ห้องสมุด หรือบ้านหลังที่สองของพี่และเพื่อนๆ  คือพี่ก็ไม่ใช่เด็กเรียนอะไรหรอก         และถ้าอยู่ไทย ใครอยู่ในห้องสมุด ก็จะมีคนมองคนๆนั้นเป็นเด็กเรียน เด็กเนิร์ด แต่ที่นี่คือทุกคนต้องไปจริงๆ เพราะการเรียนที่นี่ โดยเฉพาะ Post Graduate จะค่อนข้างเป็น Independent Study คือการเรียนรู้แบบอิสระ เรียนรู้ด้วยตัวเอง อาจารย์ไม่ได้มาบอก มาสอนเราทุกอย่าง  นักเรียนต้องให้เวลากับอ่านหนังสือเยอะมากๆ ไม่ได้เหมือนตอนอยู่ไทย ที่อ่าน slide จากอาจารย์แล้วพอ  ที่นี่เราต้องอ่านเพิ่มเติ่มจาก References หรือแหล่งการเรียนรู้ที่อาจารย์แนะนำให้อ่านจริงๆ เราจะเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น เพื่อเอาไปสอบ หรือ ทำงานส่งอาจารย์ค่ะ

เพราะฉะนั้น Time management และ ความตั้งใจต้องมา ไม่งั้น ไม่รอด เพราะถ้าเรา leave everything to the end  เหมือนพี่ ก็อาจจะทำให้งานออกมาไม่ดี คะแนนไม่ผ่าน และ ทำตัวเอง feel down ไปอีก

และที่สำคัญ ห้องสมุดเปิด 24 ชม 365 วัน และที่นี่มีทุกอย่างที่เราต้องการในการทำงานค่ะ มีห้อง Silent room, Group study room , Language study area และห้องอื่นๆเยอะไปหมด อยู่หอพี่ขาด motivation มันไม่สะดวก มันง่วงนอน และเราก็จะ fall asleep จริงๆ มาที่นี่ print งานได้ หาหนังสืออ่านเพิ่มเติมได้ หิวก็ทำอาหารมาจากที่หอ หรือซื้อที่ Simply Fresh Supermarket หรือ สั่ง Deliveroo จากร้านอาหารในเมืองมากินก็ได้  Starbucks ใกล้ๆห้องสมุดก็มี

อะ  พี่จะมารีวิว ตัวอย่างสถานการณ์ present งานกับการอยู่ห้องสมุดให้ พี่พึ่ง present วันนี้เลย เห็นว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์ดี กับน้องที่มาอ่าน

วันนี้พี่มี present งานบ่ายสอง พี่ทำ slides มาสามวัน อ่านไปทำ slides ไปในห้องสมุด แล้วนอนแปดโมงเช้าสามวันเลย แล้ววันนี้ก็นอนไปนิดเดียวแล้วมา present ซึ่งแบบนี้ไม่โอเคร  อย่าทำตาม!   ความจริงพี่ควรเผื่อเวลาเลยว่างานนึงอย่างน้อยต้องใช้เวลาทำหนึ่งอาทิตย์ อันนี้หมายถึงทำจริงจังนะ เพราะมันต้องอ่านเยอะมาก กว่าจะสร้าง slide ได้ กว่าจะ proof งานตัวเอง แล้ว present ก็ต้องซ้อมเยอะๆ อย่างน้อย 10 รอบ เพราะถ้าเราเนื้อหาแม่น เราคล่อง เราจะ present ลื่นมาก และเราจะตอบคำถามอาจารย์ได้  แล้ว present ที่นี่ก็จริงจังมาก ต้องมี markers สองคน  แล้วอาจารย์ก็ให้ technician มาตั้งกล้อง record ด้วย อาจารย์จะได้ดูอีกรอบเวลาเขากลับไปทำคะแนน   ดีนะวันนี้ที่อ่านมาเยอะ พอเข้าใจ content เพราะคำถามวันนี้ที่ถาม ยากเอาการ ยิ่งมึนๆอยู่ ถ้าไม่เข้าใจเนื้อหานี่ ไม่อยากจะคิด  ฝันร้ายเลยอะ อาจารย์ฝรั่งสองคนกับนักศึกษาคนไทยหนึ่งคน กับคำถามแนวๆ Critical thinking    แต่โอเคร ดีใจผ่านไปได้   แต่จริงๆเทคนิคการเอาตัวรอดจากงาน present ที่อาจารย์แนะนำคือ print ตาราง Presentation criteria มาว่าอาจารย์ให้คะแนนยังไง แล้ว tick เลยว่าอันไหนเราผ่าน เราไม่ผ่าน  structure, content, accuracy , critical analysis, grammar และอื่นๆ เราโอเครหรือยัง แล้วพี่ก็ซ้อม present คนเดียวในห้องสมุดยันเช้า แล้วก็ไม่มีคนแล้ว ยืนจนเห็นพระอาทิตย์   แต่วันหลังไม่ทำแล้ว เหนื่อย จะจัดการเวลาใหม่   ซึ่งพูดมาตั้งแต่จบเทอมที่แล้ว แล้ววววว !

คงดีกว่าถ้ามาพี่ทะยอยอ่าน ทบทวนความรู้ที่ห้องสมุดบ่อยๆ ให้เข้าใจทุกเรื่องที่เรียน หาหนังสือมานั่งอ่าน สรุปเนื้อหาเองใหม่ เป็นต้น

เช่นเคย ความถ่ายรูปเก่ง เอารูปที่ชอบ up ลง story ตัวเอง มาฝาก มุมโปรดตอนนั่งทำ(ปั่น)งาน พิกัด ห้อง silent room ชั้น 5  เป็นรูปที่ถ่ายตอนแดดออก เกือบๆเจ็ดโมงเช้า

 

Lastly ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน น้องๆ ผู้ปกครอง หรือเพื่อนๆ ที่อ่านจนจบ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับน้องๆที่จะมาเรียนนะคะ

ใครมีอะไรสงสัย ส่ง email มาที่ international@surrey.ac.uk นะคะ

ขอบคุณค่า

พี่นุช