ว่ากันว่าก้าวแรกออกจาก safe zone ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งการต้องมาใช้ชีวิตในต่างประเทศนาน 1 ปีเนี่ย จังหวะแรกที่คิดขึ้นมาคือ จะไหวเหรอ?
แต่มาถึงจุดนี้ ไม่ไหวก็ต้องไหวแล้วล่ะ ถอยไม่ได้แล้ว ค่าวีซ่าก็จ่ายไปแล้ว ค่าเทอมก็จ่ายไปแล้ว รู้ตัวอีกทีสัปดาห์แรกของการเป็นนักเรียนต่างชาติ หรือ International Student ก็มาถึงแล้ว
วันที่ 24 กันยายน 2561
คือวันแรกที่ก้าวแรกเหยียบแผ่นดินอังกฤษ ณ สนามบินฮีทโธรว์ ในเวลา 7 โมงนิด ๆ และความประทับใจแรกกับประเทศอังกฤษเลยก็คือ สายฝนที่โปรยปรายตั้งแต่เช้า ได้ยินเสียงคนอังกฤษที่นั่งไม่ห่างกันมากนักพูดขึ้นว่า
“Welcome to UK”
ซึ้งเลยค่ะ 5555+
เอาเป็นว่าพอลงจากเครื่องแล้ว ก็ไปรับกระเป๋า จากนั้นก็เข็นรถเข็นพร้อมกระเป๋าเดินทาง (ไม่หนักไม่เบา แค่ 30 กิโลฯ) กระเป๋ากล้อง และกระเป๋าใส่แล็ปท็อปไปที่ Terminal 3 ซึ่งเป็นจุดนัดพบ Meet and Greet กับตัวแทนจาก University of Surrey หรือก็คือ Airport Pickup นั่นเอง! ซึ่งบอกเลยว่าดีใจมาก ๆ ที่มหาลัยมีรถบัสคันใหญ่มารับที่สนามบิน ไม่อยากนึกสภาพผู้หญิงเอเชียคนหนึ่งแบกกระเป๋าน้ำหนักน่ารัก พร้อมกระเป๋ากล้องและแล็ปท็อปอีก 2 ใบขึ้นรถไฟ ต่อด้วยแท็กซี่ หรืออะไรก็ตามเลยจริง ๆ…
พี่แนะนำ! ย้ำ!!! แนะนำมาก ๆ ให้ลงทะเบียนกับ Meet and Greet นะคะ ทางมหาลัยฯ จะส่งเมล์มาแจ้งเรื่องการจองที่นั่งสำหรับการรับจากสนามบินนี้ ซึ่งจองผ่าน Eventbrite ตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ในปีของพี่สามารถเลือกได้คือวันที่ 24, 25, แล้วก็ 28 กันยายน ส่วน 2 วันที่โหว่อยู่นั้น (26 กับ 27) เป็นวัน International Orientation Days ค่ะ พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นวันปฐมนิเทศของนักเรียนต่างชาตินั่นเอง
พี่เลือกวันที่ 24 กันยายนเพราะจะได้มีเวลาปรับตัวเยอะ ๆ 😊
อะ พอเดินมาถึง Terminal 3 แล้ว หาตัวแทนจากมหาลัยฯ ไม่ยากเลยค่ะ เสื้อสีเขียวสะท้อนแสงเด่นมาแต่ไกล พร้อมกลุ่มนักเรียนที่กระเป๋าเดินทางเยอะแยะไปหมด จำได้ว่าเจอเพื่อนคนไทยหลายคนอยู่เหมือนกัน พอคนครบ ก็เช็คชื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อดูว่าใครพักอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งมีทั้งคนที่อยู่ Stag Hill, Manor Park แล้วก็ Hazel Farm
ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสจากสนามบินในลอนดอน ไปยัง Surrey และเข้าเมือง Guildford ซึ่งเป็นที่ตั้งของ University of Surrey ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นทำอะไรน่ะเหรอคะ? หลับสิคะ Jet lag สุดมาก 555+
รถบัสจะไปส่งนักเรียนที่ Stag Hill Campus ก่อน จากนั้นค่อยไปที่ Manor Park ซึ่งเป็น Campus ที่พี่อยู่ค่ะ พอไปถึงก็ไปรับ key card จาก reception แล้วก็ลากกระเป๋าเดินหาตึกของตัวเอง แวบแรกคือกลัวหาไม่เจอ…แต่โชคดีที่มี Student Life Mentor ช่วยชี้ทางค่ะ ไม่งั้นคงเดินวนหาอยู่อย่างนั้นแหละ 555+ (เรื่องห้องพัก และ Manor Park จะมาเล่าในบล็อกถัดไปนะ ^_^)
หลังจากที่หาห้องพักเจอแล้ว เอากระเป๋าไปวางแล้ว ก็ถึงเวลา…ช้อปปิ้ง!!
ขี้เกียจ และง่วงแค่ไหนก็ต้องไปค่ะ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีผ้านวม และหมอน 5555+ เพราะห้องพักที่นี่ เครื่องนอนจะมีแค่เตียงนอนให้อย่างเดียวนะคะ ที่เหลือเราต้องไปซื้อเอา พี่เอาแต่ผ้าปูเตียงกับปลอกหมอนมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องซื้อก็คือ นวม ปลอกผ้านวม และหมอน พี่กับเพื่อนคนไทยอีก 2 คนก็เข้าเมืองเพื่อไปซื้อเครื่องนอนที่ต้องใช้ที่ M&S หรือก็คือ Mark & Spencer นั่นเอง
M&S ไม่ได้เป็นแค่เสื้อผ้าและขนมอย่างที่เมืองไทยนะคะ เพราะที่นี่เป็นห้างเลย! 555+
อีกเหตุผลหนึ่งที่เข้าเมืองเลยก็คือ ไปรับบัตร BRP ค่ะ
บัตร BRP สำ คัญ มาก มาก!!
(ดอกจันทร์ 3 แสนดอกพร้อมเน้นตัวหนาและขีดเส้นใต้) เพราะเปรียบเสมือนวีซ่าของเราในช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ค่ะ ห้ามทำหายเด็ดขาด เพราะการทำใหม่ยุ่งยากมาก ๆ และเสียเงินเพิ่มด้วยค่ะ…ซึ่งสถานที่รับนั้นทุกคนจะได้รับแจ้งตอนทำวีซ่าจากที่ไทยแล้วเนอะ ส่วนพี่ไปรับที่ไปรษณีย์ในเมืองค่ะ
จากนั้นก็ซื้อของกินแบบ Ready Meal ไปก่อน เพราะยังไม่มีเครื่องครัว วางแผนไว้ว่าวันต่อ ๆ ไปค่อยว่ากันเนอะ ตอนนี้หอบข้าวหอบของล้นมือมาก ๆ
วันแรกก็หลับเป็นตาย แต่ตื่นเช้า เพราะยังไม่ชินกับเวลา…
25 กันยายน 2561
วันต่อไปสิ่งที่ทำก็คือ…ซื้อเครื่องครัว และของใช้ต่าง ๆ ค่ะ ความจริงแล้วสามารถซื้อได้ที่ Tesco (ที่ไม่มีโลตัส) ซึ่งอยู่ใกล้ Manor Park ที่สุดก็ได้ แต่วันที่ 25 กันยายน มี Campus Tour ค่ะ ซึ่งจะมี Student Ambassador พาเดินรอบมหาลัยฯ เลย สิ่งที่ประทับใจที่สุดใน Campus Tour เลยก็คือ ทะเลสาบค่ะ! มีทะเลสายในมหาลัยพร้อมสวนเขียวขจี และม้านั่งรอบ ๆ ฮือ สวรรค์ชัด ๆ สวยมาก และบรรยากาศดีมากเลย
จบจาก Campus Tour พี่ก็นั่งรถบัสเข้าเมืองไปซื้อของที่ M&S กับ Pound Land เพราะ Pound Land ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า…ทุกอย่าง 1 ปอนด์! 1 ปอนด์ทุกอย่างจริง ๆ ขุ่นพระ!!!
26 กันยายน 2561
เป็นวันแรกของ International Orientation Day ซึ่งโปรแกรมต่าง ๆ นั้นเราจะได้รับอีเมล์จากมหาลัยฯ และเราจะเป็นคนกำหนดเองด้วยค่ะว่าแต่ละวันจะเข้าร่วมกิจกรรมอะไรบ้าง โดยการใช้ Eventbrite เหมือนเดิม โดยส่วนตัวแล้วพี่คิดว่าสะดวกมาก และอะเมซซิ่งมาก เพราะที่ไทยไม่ได้มีอะไรแบบนี้ไง 5555+
ในวันนี้ก็จะมี Your Visa Welcome Talk (เกี่ยวกับวีซ่าที่ต้องรู้) ต่อด้วย Managing Your Money (เกี่ยวกับธนาคาร การเงินต่าง ๆ ส่วนลดร้านค้า และส่วนลดนักเรียน!) ตามมาด้วย Academic Skills Workshop และ Campus Treasure Hunt (คิดง่าย ๆ ว่าหา RC ก็ได้ 555+ ทำให้ได้เดินรอบมหาลัยฯ เลยล่ะ)
พอวันนี้จบกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ก็ถึงเวลา…ช้อปปิ้ง (อีกแล้ว!) คราวนี้ไปช้อปปิ้งของสด ของกินต่าง ๆ ที่ Tesco ค่ะ ใครที่ทำอาหารไม่เป็น บอกเลยว่ายังไง ๆ มาอยู่ที่นี่ก็ต้องทำเป็นแล้วล่ะ ไม่มากก็น้อย เพราะพี่คิดว่าการทำอาหารกินเองถูกกว่าการซื้อกินทุกมื้อ (มื้อนึงก็ปาไปอย่างน้อย 4 ปอนด์แล้วนะ…)
จบวันนี้ก็หลับเป็นตายเหมือนเดิมค่ะ 5555+
วันที่ 27 กันยายน 2561
ตื่นแต่เช้าเพื่อไปลงทะเบียนเป็นนักเรียนอย่างเป็นทางการที่ Great Hall ค่ะ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะเป็นการยืนยันว่าเราเป็นนักเรียนของ University of Surrey แล้วจริง ๆ และเราก็จะได้บัตรนักเรียนในวันนั้นด้วยค่ะ (ได้มาแล้วก็จะขอส่วนลดจากร้านค้าในเมืองได้ด้วยนะ นี่แหละสำคัญที่สุด!) จากนั้นก็มี International Student Information Fayre (กิจกรรมต่าง ๆ ที่มหาลัยฯ มีให้) แล้วก็ Walking Tour of Guildford ซึ่งอันนี้ไม่เล่าไม่ได้เลยค่ะ
Walking Tour of Guildford เริ่มเดินจาก Stag Hill Campus เข้าไปในเมืองค่ะ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้รู้เส้นทางเดินเลยล่ะ! เมื่อเข้าไปในเมืองถึงจุดนัดพบแล้ว เราก็พบว่ามีไกด์นำทางพาเที่ยวในเมืองด้วย! มารู้ทีหลังว่าเป็นคุณหมอล่ะค่ะ น่ารักมาก ๆ เลย ไกด์พาเราไปที่ Guildford Castle พร้อมกับเล่าประวัติต่าง ๆ ของเมืองให้ฟัง ประวัติของปราสาท แล้วก็พาไปที่ The River Wey ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ตัดผ่านใน Guildford ไหลไปรวมกับแม่น้ำเทมส์
จากนั้นไกด์พาเราไปที่ห้องโชว์รูมใต้ดินที่คาดว่าเป็นของพ่อค้าในอดีตด้วย!! ถังไวน์ใหญ่มาก และน่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะมีห้องอะไรแบบนี้อยู่ชั้นใต้ดินด้วย Guildford มีอะไรมากกว่าที่คิดจริง ๆ บอกเลยว่าใครไม่มาวันนี้คือพลาดมากเลยนะ เสียดายแทนเลย
จากนั้นเราก็กลับไปมหาลัยฯ เพราะตอนเย็นมี International Welcome Dinner ที่ Hillside’s Restaurant ค่ะ เป็นอาหารแนวอังกฤษ ร่วมโต๊ะกับนักเรียนต่างชาติคนอื่น ๆ แล้วก็มีควิซตอบคำถามกัน จบวันก็ได้เพื่อนใหม่มาเยอะแยะเลยค่ะ ทั้งจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง สเปน จีน
แต่อยากบอกว่ารู้สึกว่าตัวเองแก่มากเลยค่ะ…เพราะส่วนใหญ่เจอแต่น้อง ๆ undergrad ทั้งนั้น อยากลดอายุตัวเองไปซัก 4-5 ปีเลย…
วันที่ 28 กันยายน 2561
วันนี้ที่เหมือนจะว่าง แต่ก็ไม่ว่างเท่าไหร่ เพราะเข้าเมืองเพื่อเก็บตกซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงเข้า Tesco เพื่อซื้อของสดเข้าตู้เย็นค่ะ เรียกว่าเป็นวันที่ได้พักผ่อนเต็มที่วันหนึ่งก็แล้วกันเนอะ
สัปดาห์แรกเป็นสัปดาห์ที่วุ่นวายพอตัว แต่สนุกมาก ๆ รวมไปถึงใช้เงินจำนวนหนึ่งเลยล่ะค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นค่าตั้งตัวเนอะ สิ่งที่ซื้อก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ต้องใช้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหม้อ ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ เครื่องนอน ของใช้ในห้องน้ำ และของใช้จิปาถะต่าง ๆ มากมาย เพราะฉะนั้นในช่วงเดือนแรก ๆ นี้อย่าลืมติดเงินสดมาด้วยนะคะ หรือบางคนที่ใช้บัตรเดบิตแบบ travel card ก็ได้ ส่วนพี่ใช้ SCB Planet card ค่ะ
สัปดาห์แรกสำหรับบางคนอาจจะวุ่นวาย บางคนอาจจะต้องปรับตัวเยอะ (โดยเฉพาะอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้) แต่สัปดาห์ถัด ๆ ไปจะดีขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้ายแล้วก็จะสนุกไปกับการใช้ชีวิตที่นี่ค่ะ
ในระหว่างนี้ถ้าใครมีคำถามหรือสงสัยในเรื่องไหน ส่งอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ international@surrey.ac.uk ได้เลย
แล้วเจอกันบล็อกถัดไปในสัปดาห์หน้านะคะ 😊